ฉันเอง

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ดื่มกาแฟให้มีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ






    ก็ฉันสงสัยนี่.......................... หันไปถามเพื่อนหลายคนดื่มกาแฟทำไม  ฉันเห็น บางคนดื่มด้วยความเคยชิน  บางคนดื่มอย่างเคยตัว สุดท้ายกว่าจะรู้ตัวก็เป็นโรคติดกาแฟงอมแงมไปแล้ว ขาดกาแฟไม่ได้หงุดหงิดออกอาการให้เห็น  อีกทั้งรสนิยมการดื่มก็ช่างต่างกันมากมาย บางคนดื่มตอนเช้าวันละแก้ว บางคนดื่มจัดสองสามแก้วต่อวัน บ้างก็ดื่มไม่จำกัดเวลา คุณลุงบอกต้องขมเข้ม  คุณหนูบอกขอหวานมัน คุณพี่บอกของหอมนุ่ม คำตอบที่ได้ยิ่งทำให้สงสัย ดื่มแล้วสดชื่นกระปรี้กระเปร่า  ดื่มแล้วหายง่วง  ดื่มแล้วสมองทำงาน ดื่มแล้วมีแรง ลดโคเลสเตอรอล  บางคนตอบ......ไม่รู้

สรุปว่าดื่มกาแฟแล้วต้องมีผลกระทบกับคนเราอย่างแน่นอน  ด้านจิตใจของผู้นิยมดื่มกาแฟนั้นเห็นกันชัดเจน แต่ผลต่อร่างกายผู้ดื่ม อันนี้จึงไปสืบเสาะค้นคว้ามาเล่าสู่กัน

ในกาแฟมีคาเฟอีน (Caffeine) เป็นสารประกอบหลัก เมื่อสกัดคาเฟอีนออกมาซึ่งมีลักษณะเป็นผงสีขาว มีรสขม คาเฟอีนนี้เป็นคาเฟอีนธรรมชาติที่มีฤทธิ์กระตุ้นต่อร่างกายชั่วคราวเท่านั้น

  • มี ฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง และหัวใจ  ช่วยให้สมองตื่นตัวมากขึ้น ประมวลผลเร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพของงานที่ต้องการสมาธิ  เหตุผล และความจำมากขึ้น ลดอารมณ์หงุดหงิด ซึมเศร้า และความเครียดได้ ทำให้ผู้ดื่มรู้สึกพึงพอใจ  อารมณ์ดี มีความสุข
  • มีฤทธิ์กระตุ้นกระเพาะอาหารให้หลั่งกรดย่อยอาหารบางชนิดออกมา จึงแนะนำให้ดื่มกาแฟหลังอาหารช่วยย่อยอาหาร
  • คา เฟอีนช่วยกระตุ้นการใช้พลังงานของร่างกาย  ทำให้ไขมันสลายตัวมากขึ้น  จึงอาจดื่มเป็นเครื่องดื่มลดน้ำหนัก แต่ระวังอย่าเติมน้ำตาลหรือนมไขมันสูงเข้าไปมากเกินความต้องการของร่างกาย
นอก จากคาเฟอีนยังมีสารประกอบอื่นกว่า 300 ชนิด เช่น กรดแทนนิค เป็นตัวทำให้กาแฟขม , เส้นใยอาหาร ซึ่งเมื่อผ่านความร้อน เส้นใยจะกลายเป็นคาร์โบไฮเดรต  และกรดแลคติกรวมกันคือสีน้ำตาลเข้มของกาแฟที่เราเห็น  และยังมีไนแทซเซียมและไนอาซีน ซึ่งเป็นวิตามินบีชนิดที่ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้  ในกาแฟถ้วยหนึ่งมีไนอาซีนประมาณ  1 มก. นอกจากนี้ยังมีไขมันและคาร์โบไฮเดรตอีกนิดหน่อย
ฤทธิ์ของคาเฟอีนต่อร่างกายคนเรามีค่าความปลอดภัยอยู่ที่ประมาณ 100-300 มก. ต่อวัน กาแฟแบบผงชงหนึ่งถ้วยมีคาเฟอีน 65 มก. กาแฟแบบต้มหนึ่งถ้วยมีคาเฟอีน 115 มก. 

เอาล่ะ.....ถ้าจะดื่มกาแฟแบบต้มประมาณ 2-3 ถ้วยต่อวัน น่าจะพอเหมาะพอดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย   แต่ถ้าเราได้รับคาเฟอีนเกินกว่า 300 มก.ต่อวันจะส่งผลอะไรกับร่างกายบ้าง เราควรจะดื่มกาแฟวันละมากน้อยเพียงใด องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ออกมาชี้แจงว่า หากดื่มกาแฟในปริมาณปานกลาง ไม่มากเกินไป ไม่ให้เกิน 300 มก.ต่อวัน  คาเฟอีนในกาแฟก็ไม่มีผลต่อสุขภาพของคุณ  ร่างกายของคนเราสามารถปรับตัวคงทนต่อฤทธิ์ของคาเฟอีนสูงขึ้น  บางคนยิ่งดื่มยิ่งติด และเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ ความทนทานนี้จะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น อย่างไรก็ดี แต่ละคนควรที่จะสังเกตตัวเองด้วย เพราะคาเฟอีนมีผลต่อร่างกายและสภาวะของแต่ละคนต่างกัน มีข้อแนะนำดังนี้ค่ะ

  • คนที่นอนหลับยากในตอนกลางคืน อย่างดื่มกาแฟในปริมาณมาก หรือทานกาแฟในช่วงบ่าย
  • เด็ก อายุต่ำกว่า 10 ปี เด็กเล็กไม่ควรให้ดื่มกาแฟ  เด็กขับคาเฟอีนออกจากร่างกายได้ช้ากว่าผู้ใหญ่  ดังนั้น คาเฟอีนจะมีฤทธิ์ที่รุนแรงแก่เด็กมากกว่าผู้ใหญ่
  • สตรีมีครรภ์ถ้าดื่มกาแฟทารกจะดูดซึมคาเฟอีนเข้าไปด้วย ทางที่ดีควรงดดื่มไปก่อนเพราะอาจทำให้ทารกอยู่ในภาวะอ่อนแอ
  • มารดา ที่ให้นมบุตร  หากดื่มกาแฟ คาเฟอีนอาจปนเปื้อนในน้ำนม และทารกที่ดื่มน้ำนมชนิดพิเศษนี้อาจมีอาการไม่ยอมนอน ร้องกวน และอาจส่งผลต่อกระเพาะและลำไส้ของทารก
  • ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงของโรคหัวใจ คาเฟอีนจะกระตุ้นให้หัวใจทำงานมากขึ้นและส่งผลให้หัวใจเสื่อมเร็วขึ้น
  • ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ คาเฟอีนจะไปกระตุ้นการหลั่งของน้ำย่อย เพิ่มกรดในกระเพาะ หากรับประทานอาหารไม่เป็นเวลาจะยิ่งทำให้กระเพาะอักเสบมากขึ้น
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือมีไขมันในเส้นเลือดสูง คาเฟอีนอาจส่งผลให้น้ำตาลในเส้นเลือด และไตรกลีเซอร์ไรด์สูงขึ้น จึงควรงดกาแฟไปก่อนนะคะ
  • บางคนติดกาแฟมานาน แต่พักหลังทานกาแฟแล้วมีอาการปวดหัว ปวดกระเพาะ กระวนกระวาย  ใจสั่น ควรลดปริมาณกาแฟลงและสังเกตตัวเองว่ารู้สึกดีขึ้นหรือเปล่า
 คาเฟอีนมิได้มีอยู่แต่ในกาแฟนะคะ ในชา เครื่องดื่มคาร์บอเนต หลายๆ ชนิดก็พบคาเฟอีนเช่นเดียวกัน  ซึ่งพบอยู่ในชีวิตประจำวันของเราทุกคน ดังนั้น เราควรรู้จักคาเฟอีนเราควรจัดสรรให้เกิดความสมดุลของภาวะโภชนาการของตนเอง เราแต่ละคนรู้ตัวเองดีว่าพอดีพอเหมาะอยู่ที่ตรงไหน และเราดูแลตัวเองได้ค่ะ
---------------------------
ข้อมูลจาก http://www.hillkoff.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น